[Fic] Neogenesis Evangelion : “Thanatos You can’t be mine”
แต่งสนอง need ตนเองค่ะ พอดีอยากแต่งเรื่องนี้มานาน แล้วก็ชอบคู่นี้มากด้วย^^ สรุป ฟิคเอาแต่ใจตัวเองค่ะ
ผู้เข้าชมรวม
2,066
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
[Fanfiction] Neogenesis Evangelion
Pairing : Nagisa Kaworu x Ikari Shinji
“Thanatos You can’t be mine”
“คาโอรุคุง!!!!!!”เสียงกรีดร้องที่ออกมากจากก้นบึงของหัวใจ
.สุดท้ายฉันก็ทำให้นายร้องไห้จนได้ชินจิ
ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะไม่ยอมทำให้นายต้องเสียใจแล้วเชียว .
ใบหน้าของร่างบางที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา ..
ยกโทษให้ฉันด้วยนะ ..
ที่ต้องทำให้เจ็บปวดขนาดนั้น
ยกโทษที่ฉันไม่สามารถทำมันได้ .ยกโทษให้ฉันด้วยที่ฉันทิ้งให้นายต้องทนทุกข์ทรมาณอยู่ตามลำพัง .
แต่ฉันก็ไม่อาจต้องการเสียนายไป
ถ้าหากว่า ..โลกมนุษย์จะต้องพินาศลง อย่างน้อยๆก็ขอแค่นาย
ขอแค่นายยังมีชีวิตรอดต่อไปก็ยังดี
เพราะว่าฉันไม่อาจทนได้ ..
หากต้องมีชีวิต
อยู่บนโลกนี้ตามลำพัง ..
แต่ไร้ดวงอาทิตย์อย่างเธอเคียงข้างกาย
ทำอย่างนั้นมันก็ไม่ต่างจากการ“ฆ่าฉันให้ตายทั้งเป็น”
นี่ ชินจิคุง หรือว่าบางที เราไม่ควรพบกันตั้งแต่แรกแล้ว?
แต่ว่าถ้าฉันไม่ได้พบกับชินจิคุง .ฉันเองก็คงไม่รู้ค่าของคำว่า
“รัก”
..
และฉันเองก็คงทำลายลิลินโดยไม่ลังเลใจ
..
แต่ที่ทำให้ฉันเศร้าที่สุด ..
คือการที่ฉันต้องทำลายชินจิคุง
“ยกโทษให้ด้วยนะที่ฉันเห็นแก่ตัว ”
“ยกโทษให้ฉันด้วยที่ฉันทำตามแต่ใจตัวเอง”
“ยกโทษให้ด้วยที่ฉันต้องบีบคั้นความรู้สึก”
“ถ้าไม่ทำอย่างนั้นชินจิคุงคงไม่ยอมฆ่าฉัน .”
“แล้วฉันก็ต้องฆ่าชินจิคุง .”
ซึ่งฉันทำไม่ได้ .
เพราะชินจิคุงสำคัญยิ่งกว่าทุกๆสิ่ง
สำคัญยิ่งกว่า โลกใบนี้ .
เพราะฉะนั้นฉันถึงอยากให้มีชีวิต
เพราะฉะนั้นฉันถึงอยากให้อยู่ต่อไป
“มีชิวิตอยู่ต่อไปเถอะนะชินจิ ..เพราะเธอสวยงามเกินกว่าที่ฉันจะทำลายทิ้งให้พินาศไป ..”
“ขอโทษนะชินจิ ..”
“ยกโทษให้ฉันด้วย ”
.
..
..
“นี่คนที่สมควรตายน่าจะเป็นผมมากกว่า ”
ทั้งๆที่เขาเป็นคนแรกที่บอกว่ารักผม
แต่ทำไม ทำไมคาโอรุคุงต้องเป็นเทวทูตด้วย
ไม่
อย่านะ!
อย่า!
อย่าฆ่าเขา!
อย่าฆ่าคาโอรุคุง .
อย่า!
ถ้าจะให้คาโอรุคุงตายล่ะก็
ให้ผมตายไปด้วยสิ!
โลกที่ไม่มีคาโอรุคุงอยู่
ผมก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตไปเพื่ออะไรกัน
คนที่รักที่สุด
คนที่อยากอยู่ด้วยกันตลอดไป
แต่แล้ว .เขาก็ทำให้ผมต้องฆ่าเขา
ทำไมต้องให้ผมทำเรื่องโหดร้ายแบบนั้น .
เคยคิดบ้างมั้ย? ว่าผมรู้สึกยังไง .
เคยเข้าใจมั้ยว่ามันเจ็บปวดมากแค่ไหน .
เจ็บ .ไม่เอาแล้ว
ไม่เอาอีกแล้ว
อย่าให้ผมทรมาณมากไปกว่านี้เลย .
ไม่นะ! เลือด ..ไม่นะ .ไม่!!!!
“คาโอรุคุง!!!!!!”
.
“ใครก็ได้ ฆ่าผมทีสิ
”
.
ทั้งที่เคยคิดว่า ไม่มีใครจะมารักคนอย่างเราได้หรอก .
แต่เขากลับเป็นคนที่เข้ามาเปิดใจ
เขาทำให้ผมเชื่อใจได้อย่างง่ายดาย
ผมก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรทำไมถึง
เพราะเหงาหรือเปล่านะ?
บางทีอาจจะเป็นเพราะเหงา ..
และตอนนั้นทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวมันช่างอ้างว้าง .
ทุกๆคนไม่มีเข้าใจผมเลย ..
ทั้งๆที่ก็แค่อยากให้ใครสักคนเข้าใจ
ก็แค่ ..อยากมีใครสักคน .
แล้วเขาก็เดินเข้ามา
ทั้งที่ๆตอนนั้นจะไม่รักใครอีกแล้ว
ทั้งๆที่คิดว่า หากรักแล้ว ก็ต้องเจ็บปวด ถ้าหากมีความทรงจำต่อกันแล้วต้องลาจาก ..
ก็ต้องเจ็บปวด
ถ้าหากไม่เคยรู้จักกันเลย
ถ้าหากไม่ต้องผูกพัน
ก็จะไม่มีใครทำร้ายเรา .
ไม่มีใคร
ไม่มีใคร
แต่ว่าการที่ไม่มีใครเลย
มันเหงา ..
เหงาเหลือเกิน
แล้วตอนนั้นคาโอรุคุงก็เดินเข้ามา ..
ตั้งแต่เขายิ้มให้ ..
ตอนนั้นหัวใจของผมกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ยิ่งได้รู้จักเขาความกลัวของผมก็ลดลง .
ไม่เคยเปิดใจให้ใครมาก่อน
นั่นเป็นครั้งแรก
คิดว่าถ้าเป็นคนๆนี้
ผมคงเปิดใจด้วยได้ .
ไม่ต้องเหงาอีกแล้ว
ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว ..
อบอุ่น ..เป็นครั้งแรกในหัวใจ ..
จากนั้นตั้งแต่ตอนไหนนะ
ที่รู้สึกถึงคำว่ารัก .
คงเป็นตอนที่เขา .
“อืม .อ๊ะ คาโอรุคุง”ร่างบางหน้าแดงก่อนจะลดสายตาลง
“ขอโทษนะ รู้สึกแย่งั้นเหรอ ..”ร่างสูงเอื้อมมือไปจับที่แก้มเนียนบาง
“มะ ไม่ใช่ยังงั้น เพียงแต่ .ผมเป็นผู้ชายแล้วเรื่องแบบนี้มันก็ ..”
แต่แล้วคาโอรุก็ยื่นใบหน้าลงมาสัมผัสริมฝีปากบาง ..
“อืม ..”แปลกจริงร่างบางคิด ทำไมถึงได้ไม่รังเกียจอะไรเขาเลย .ตรงกันข้ามกลับรู้สึกดีใจ .
เป็นเพราะคาโอรุคุงงั้นเหรอ ทั้งๆที่เขาเป็นผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ
“รักนะ ..”
“เอ๊ะ?”
“ที่ฉันทำแบบนี้ เขาหมายถึงรักใช่มั้ย? ชินจิคุง”
“คาโอรุคุง .”
“ร้องไห้ทำไม ชินจิคุง รู้สึกไม่ดีขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“เปล่าหรอก ..ที่ฉันน้ำตาไหลเพราะดีใจน่ะ ..”
“ชินจิคุง อย่าร้องสิ ”เด็กหนุ่มร่างสูงปาดน้ำตาที่รินไหลออกจากนัยต์ตาคู่สวย .
“ถ้าชินจิคุงร้องไห้ฉันคงทนไม่ได้ ถึงแม้จะดีใจหรือเสียใจก็ตาม ..”
“คาโอรุคุง ”
“ฉันชอบตอนที่ชินจิคุงยิ้มที่สุดนะ เพราะฉะนั้นอย่าร้องไห้เลย ..”
แต่แล้วสุดท้ายร่างบางก็ไม่พ้นต้องเสียน้ำตา
“เอาล่ะ ฆ่าฉันเถอะ ชินจิคุง
..”มันเหมือนเป็นคำสั่งเสียสุดท้าย
ของเด็กหนุ่มร่างสูง
“ทำไมล่ะ? ทำไมต้องให้ผมทำเรื่องที่โหดร้ายขนาดนั้น .”ร่างบางเอ่ยหยาดน้ำใสพร่างพรูออกจากดวงตาสีน้ำทะเลแสนเศร้า
“เพราะว่ามันเป็นเพียงวิธีเดียวเท่านั้น .”
“ไม่เอาหรอก!! ผมทำไม่ได้ ..จะให้ทำอย่างนั้นได้ยังไง .ผมจะฆ่าคาโอรุได้ยังไง .”
“ชินจิ ..ขอร้องล่ะนะ เห็นแก่ฉัน .ถือว่าเป็นคำขอร้องครั้งสุดท้าย”
“ ไม่เอา ไม่ .”ร่างบางส่ายหน้าทั้งน้ำตา
“ถ้าจะให้ฆ่าคาโอรุละก็ ผมยอมตายดีกว่า ..”เด็กหนุ่มมองเขาด้วยสายตาปวดร้าว .
“ชินจิ .ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ยอมงั้นเหรอ?”
ไม่มีคำพูดใดๆ
มันเป็นความเงียบที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น .
เด็กหนุ่มร่างสูงผมสีหิมะ ผู้มีนัยต์ตาสีแดงดังหยาดเลือด หลับตาลง
“เข้าใจล่ะ ..ขอโทษด้วยนะชินจิคุง ”
พริบตานั้น ร่างบางรู้สึกถึงแรงที่มือข้างขวา .ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นกดบังคับเขาไว้
“คะ? คาโอรุ?......”
“ฉันดีใจจริงๆที่ได้เกิดมาพบเธอ”
คำพูดสุดท้ายนั่นหายไปในวินาทีเดียวกับที่เด็กหนุ่มร่างบางที่กรีดร้องอย่างสุดเสียง
..
“คาโอรุคุง!!!!!!”
“ไม่นะ!!!!!!!!!”
เสียงร้องที่ตะโกนอย่างสุดแสนเจ็บปวด
พร้อมกับร่างที่แหลกหลวของเด็กหนุ่มร่างสูง .
ร่างนั้นตกลงดิ่งลงไป
พร้อมกับหัวใจที่แหลกสลายของเด็กหนุ่มร่างบาง
..
.
..
..
เด็กหนุ่มร่างบางนอนเหม่อทอดสายตาไปไกล .
ดวงตาสีน้ำทะเลคู่นั้นไร้แววของความมีชีวิต ..
“ชินจิคุง .ชินจิคุง”
อ้อมแขนคู่นั้น ..อ้อมแขนที่เคยโอบกอดเขาไว้
“ฉันรักเธอนะ ”
เสียงทุ้มที่กระซิบคำหวาน ..
“ฉันดีใจจริงๆที่ได้เกิดมาพบนาย”
คำบอกรักหวานๆที่เคยได้ยินอยู่ทุกวัน
“รัก .”
รอยยิ้มอบอุ่น
รอยยิ้มที่มลายความปวดร้าวในใจ
แต่ไม่
ไม่มีอีกแล้ว
คนๆนั้นไม่อยู่แล้ว
คนที่รักที่สุด
คนที่รักยิ่งกว่าใครๆ
หยาดน้ำใส ไหลริน
“เจ็บ ฉันเจ็บเหลือเกิน คาโอรุคุง .”
“ทำไม ทิ้งฉันไว้เดียวดายอยู่บนโลกใบนี้”
“โลกที่ฉันไม่เหลือใครอีกแล้ว”
.
..
..
“คนที่สมควรตายน่ะ น่าจะเป็นฉันมากกว่า”
“นี่ได้โปรดเถอะ ถ้าหากคราวหน้าได้พบกันอีก”
“ให้ฉันตายด้วยคนเถอะนะ
”
เพราะมันเจ็บปวดเกินกว่าจะแบกรับไว้
เพราะว่าหัวใจของฉันไม่เหลืออีกแล้ว
สิ่งที่มีความหวัง “ให้มีชีวิต”
“นี่การพบกันของเราเป็นบาปงั้นรึ?
..”
“ถ้าอย่างนั้น เราไม่ควรพบกันตั้งแต่แรกพบจะดีมั้ย?”
“จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดเมื่อยามที่จากกัน ”
“แต่ไม่ได้ ..”
“ถ้าหากไม่รู้จักกับคาโอรุคุง ฉันก็คงไม่รู้จักกับสิ่งที่เรียกว่า”
“รัก .”
บทส่งท้าย ..
Please let’s die together
ยามสุดท้ายของโลกใบนี้ ไม่มีซึ่งแสงอาทิตย์ ไม่มีซึ่งแสงจันทร์ฉาย หรือแม้แต่ดาราราย ..
เด็กหนุ่มร่างบางนอนเดียวดายอ้างว้าง ..อยู่ท่ามกลางทะเลสีเลือด
ทะเล LCL
“นี่น่ะเหรอ จุดจบของโลกใบนี้ นี่น่ะเหรอสิ่งที่นายอยากให้ฉันเห็น ..”
ไม่มีแม้สิ่งมีชีวิต จะมีก็แต่ซากปรักหักพังเป็นแค่สิ่งที่ย้ำเตือนว่าเคยมีมนุษย์อาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้
เด็กหนุ่มหลับตาลง .
“สุดท้าย .ฉันก็ถูกทิ้ง .ให้อยู่กับความเดียวดาย ”
น้ำตาของร่างบางไม่รินไหลอีกแล้ว
ไม่มีอะไรให้ต้องเจ็บปวดอีกแล้ว
ในเมื่อสิ่งที่ทำให้ยิ่งกว่าเสียใจไม่มีอีกแล้วบนโลกอันแสนอ้างว้างแห่งนี้
“ไม่มีอีกแล้ว มันจบลงแล้ว”
ร่างบางหลับตาอีกครั้ง ..
ก่อนที่จะลืมตาขึ้นมา
“นี่คาโอรุคุง ”
“ฉันจะตายได้หรือยัง?”
“ นี่ ตอบฉันหน่อยได้มั้ย?”
“หือ?.....คาโอรุคุง ..”
..
..
“ชินจิคุง ..”
“?”
เสียงที่กำลังเรียกเขาอยู่นั้น เสียงทุ้มต่ำนั้น เป็นไปไม่ได้
หัวใจของเด็กหนุ่มเต้นแรงจนแทบรู้สึกได้
..
ก่อนจะหันไปเจอ..กับสิ่งที่ทำให้น้ำตาไหลอาบสองแก้มอีกครั้ง
“คาโอรุคุง เป็นไปไม่ได้ .”
ร่างบางไม่อาจจะเชื่อสายตา แต่อ้อมแขนที่โอบกอดตัวเขานั้น
..ไม่ใช่ภาพฝัน
ไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย?
“คาโอรุ ..คาโอรุคุง ”
ร่างบางสวมกอดตอบทั้งน้ำตาพร้อมทั้งคำพูดที่ไม่อาจระบายออกมา
“คาโอรุ ฉัน ฉันนึกว่า ..”
“พอแล้วล่ะไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว”ร่างสูงปิดปากร่างบางด้วยจุมพิตละไม
“มันจบแล้วล่ะชินจิ ..ขอโทษนะที่มารับเธอช้าไป”
“ .”ร่างบางส่ายหน้า ..
“ไม่เป็นไรหรอก ขอแค่มีคาโอรุคุงอยู่ด้วย”
“ก็ไม่ต้องการอะไรอีกต่อไป ”
ร่างบางหลับตาลงในอ้อมแขนของเด็กหนุ่มผมขาวด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุขอีกครั้ง
ท่ามกลางทะเล LClนั้น
ไม่ปรากฏร่างใดๆบนโลกใบนี้ .
จะคงเหลือก็แค่สิ่งที่เคยเรียกว่า มนุษย์ ..
กับเสื้อผ้าพร้อมทั้งร่างกายของเด็กหนุ่มที่หล่อรวมกลายเป็นส่วนหนึ่งของทะเล LCl
“ลาก่อน ลิลิธ .”
“ลาก่อน ชินจิคุง ”
~Fin~
ผลงานอื่นๆ ของ Dark_shochan ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Dark_shochan
ความคิดเห็น